๐ สไบน้องคล้องให้พี่ราตรีนั้น
ยังผูกพันอยู่กับพี่ไม่หนีหาย
คงเก็บกักรักษาจนกว่าตาย
จะคลุมกายกอดม้วยไปด้วยกัน
๐ กลิ่นสไบบ่งบ่มช่างฉมชื่น
วันและคืนคอยสะกิดให้คิดฝัน
แม้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำยังรำพัน
ให้ฐานันดร์มิบั่นทอนลิดรอนเรา
๐ สไบแพรแลแม้นแทนกายน้อง
ยามจับต้องผ่องละมุนอุ่นคลายเหงา
แต่ใบหน้าน้ำตานองหมองมิเบา
ป่านนี้เขาคงลืมแล้วหนอแก้วตา
๐ ได้แต่มองจ้องแล้วจูบลูบคลำแผ่ว
ไร้วี่แววเห็นวงพักตร์ยากจักหา
เจ้าจากไปไกลลิบลับไม่กลับมา
ปล่อยให้ข้าคอยพร่ำเพรียกเรียกร้องคืน
๐ หรือเรือนรักหักสะบั้นกันเกินแก้
ทิ้งไว้แต่สไบเฉียงเพียงหนึ่งผืน
ให้คะนึงถึงเจ้าของ ... ต้องกล้ำกลืน
และทนฝืนใฝ่ถวิลกินน้ำตา
ให้ฐานันดร์มิบั่นทอนลิดรอนเรา
๐ สไบแพรแลแม้นแทนกายน้อง
ยามจับต้องผ่องละมุนอุ่นคลายเหงา
แต่ใบหน้าน้ำตานองหมองมิเบา
ป่านนี้เขาคงลืมแล้วหนอแก้วตา
๐ ได้แต่มองจ้องแล้วจูบลูบคลำแผ่ว
ไร้วี่แววเห็นวงพักตร์ยากจักหา
เจ้าจากไปไกลลิบลับไม่กลับมา
ปล่อยให้ข้าคอยพร่ำเพรียกเรียกร้องคืน
๐ หรือเรือนรักหักสะบั้นกันเกินแก้
ทิ้งไว้แต่สไบเฉียงเพียงหนึ่งผืน
ให้คะนึงถึงเจ้าของ ... ต้องกล้ำกลืน
และทนฝืนใฝ่ถวิลกินน้ำตา
สไบน้อง ..... ให้นะ.....
๑ สไบน้อง คล้องให้พี่ ราตรีนั้น
ความผูกพัน ตราตรึง ซึ้งเสมอ
คืนแสงจันทร์ โอบหล้า ฟ้าละเมอ
สองเราเพ้อ พร่ำรัก สลักใจ
๒ ก่อนจากกัน สัญญา ฟ้ายังยิ้ม
สองเราอิ่ม เอมอุ่น บุญไสว
โสมสว่าง กลางคืน ชื่นหทัย
ส่งสไบ หมายว่า ค่าน้ำคำ
๓ หอมสไบ ให้ถวิล ถึงกลิ่นกรุ่น
น้องแนบหนุน ตักนาน หวานชื่นฉ่ำ
พี่มอบสร้อย สวมศอ ลออจำ
ยังเก็บกำ นำมาใช้ สวมใส่คอ
๔ วันเวลา มาพรากเรา ดังเงาลบ
หลังเรียนจบ ก็ต้องจาก พรากกันหนอ
หน้าที่น้อง อยู่เมืองเหนือ นั้นเพื่อรอ
นานวันก้อ ยิ่งห่างไกล ไม่เจอกัน
๕ หยิบสร้อยศอ คลอน้ำตา อยากหาพี่
ยังรักษา ไว้อย่างดี มิแปรผัน
ปล่อยคิดถึง ซึ้งใจ ไปทุกวัน
จดหมายนั้น ก็เขียนนะ ใช่ละเลย
๖ ทั้งเบอร์โทร ก็ให้ เห็นไม่มา
สไบน้อง คงไร้ค่า นิจจาเอ๋ย
เดือนดาวหม่น คนไกล ไยเฉยเมย
สไบเอย คงไม่อุ่น กลิ่นกรุ่นจาง
๗ สไบน้อง แทนใจ ไหนว่าชอบ
น้องยังมอบ ดวงมาลย์ ประสานสร้าง
พิมพ์คำรัก สลักไว้ ใช่เลือนลาง
หวังยามห่าง พี่อย่าหัน ปันรักใคร !
ความผูกพัน ตราตรึง ซึ้งเสมอ
คืนแสงจันทร์ โอบหล้า ฟ้าละเมอ
สองเราเพ้อ พร่ำรัก สลักใจ
๒ ก่อนจากกัน สัญญา ฟ้ายังยิ้ม
สองเราอิ่ม เอมอุ่น บุญไสว
โสมสว่าง กลางคืน ชื่นหทัย
ส่งสไบ หมายว่า ค่าน้ำคำ
๓ หอมสไบ ให้ถวิล ถึงกลิ่นกรุ่น
น้องแนบหนุน ตักนาน หวานชื่นฉ่ำ
พี่มอบสร้อย สวมศอ ลออจำ
ยังเก็บกำ นำมาใช้ สวมใส่คอ
๔ วันเวลา มาพรากเรา ดังเงาลบ
หลังเรียนจบ ก็ต้องจาก พรากกันหนอ
หน้าที่น้อง อยู่เมืองเหนือ นั้นเพื่อรอ
นานวันก้อ ยิ่งห่างไกล ไม่เจอกัน
๕ หยิบสร้อยศอ คลอน้ำตา อยากหาพี่
ยังรักษา ไว้อย่างดี มิแปรผัน
ปล่อยคิดถึง ซึ้งใจ ไปทุกวัน
จดหมายนั้น ก็เขียนนะ ใช่ละเลย
๖ ทั้งเบอร์โทร ก็ให้ เห็นไม่มา
สไบน้อง คงไร้ค่า นิจจาเอ๋ย
เดือนดาวหม่น คนไกล ไยเฉยเมย
สไบเอย คงไม่อุ่น กลิ่นกรุ่นจาง
๗ สไบน้อง แทนใจ ไหนว่าชอบ
น้องยังมอบ ดวงมาลย์ ประสานสร้าง
พิมพ์คำรัก สลักไว้ ใช่เลือนลาง
หวังยามห่าง พี่อย่าหัน ปันรักใคร !
มีการแก้ไข
สวนฝันวรรณศิลป์
...พี่ยืนยันมิปันรักแม้สักนิด
ยังคงคิดถึงน้องปองรักใคร่
ใช้ชีวิตชิดกระชับกับสไบ
คอยส่งใจไปหานุชสุดรำพัน
๐ จดหมายน้อยคอยรับอยากจับอ่าน
แต่ไม่ผ่านมือพี่ที่คอยนั่น
คงมีเหตุเภทภัยให้แคล้วกัน
จึงจาบัลย์รันทดหมดอาลัย
๐ เบอร์โทร.นั่นมันหายหลายปีแล้ว
ติดต่อแก้วก็ไม่ได้ให้สงสัย
จึงครวญคร่ำร่ำระทมตรมฤทัย
มากปัจจัยหลายนัยนักที่หักราน
๐ สไบน้องของรักจักมิห่าง
ทุกก้าวย่างยังชมชิดอธิษฐาน
หากชาตินี้มีบุญอยู่คู่นงคราญ
จงพบพานอย่าพลัดพรากจากนานเกิน
รุจิเรข อภิรมย์
...พี่ยืนยันมิปันรักแม้สักนิด
ยังคงคิดถึงน้องปองรักใคร่
ใช้ชีวิตชิดกระชับกับสไบ
คอยส่งใจไปหานุชสุดรำพัน
๐ จดหมายน้อยคอยรับอยากจับอ่าน
แต่ไม่ผ่านมือพี่ที่คอยนั่น
คงมีเหตุเภทภัยให้แคล้วกัน
จึงจาบัลย์รันทดหมดอาลัย
๐ เบอร์โทร.นั่นมันหายหลายปีแล้ว
ติดต่อแก้วก็ไม่ได้ให้สงสัย
จึงครวญคร่ำร่ำระทมตรมฤทัย
มากปัจจัยหลายนัยนักที่หักราน
๐ สไบน้องของรักจักมิห่าง
ทุกก้าวย่างยังชมชิดอธิษฐาน
หากชาตินี้มีบุญอยู่คู่นงคราญ
จงพบพานอย่าพลัดพรากจากนานเกิน
รุจิเรข อภิรมย์
Kritsana Vejjasilpa ไพเราะรสจริงแล้ว
Kritsana Vejjasilpa ยังไม่ว่างตอบ ไพเราะมากๆเลย อือ....
Peegul Phinsaihem เจ็บมากกินใจเหลีอเกิน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น