ดวงเดือน...ที่รัก
๑ ยินสำเนียง เสียงซอ มาทอทัก
หวานแว่วนัก สลักจินต์ ถิ่นความฝัน
ลาวดวงเดือน เหมือนมีมนต์ ดลผูกพัน
แว่วจำนรรจ์ หวานจำเนียร เทียนธูปใจ
๒ แสนซึ้งทรวง ด้วงเสียง จำเรียงสาน
สุดสะท้าน ดาลดิ้น ถวิลไหว
เสนาะรส บททำนอง จองหทัย
ซ่านซึ้งใน ใจนัก ประจักษ์จินต์
๓ โอ้ละหนอ ดวงเดือนเอย เคยลอยเด่น
เปรียบดังเช่น ความรัก จักไม่สิ้น
แสงเจ้าแสน ยิ่งใหญ่ ในธานินทร์
สุดถวิล ถิ่นบุหลัน จันทร์ดารา
๔ เป็นเพลงเศร้า เคล้าโศก วิโยกสื่อ
พลัดพรากคือ เนื้อเพลง บรรเลงว่า
เจ้าเพ็ญ พัฒนพงษ์ ทรงไคลคลา
รอนแรมมา ถิ่นอีสาน ฐานไหมไทย
๕ นั่งบนเกวียน เขียนอักษร กลอนเป็นสาร
จิตส่งผ่าน กานท์คิดถึง คะนึงใฝ่
หญิงผู้ซึ่ง ทรงรัก ปักฤทัย
ทอสายใย ในเพลง บรรเลงลง
๖ เมื่อกลับกรุง เพลงก็ ทอแสงสี
แต่ฤดี พระองค์ดับ ลับหล้าหลง
ยี่สิบแปด พระชนม์สิ้น ชีวินปลง
ผลงานยง อยู่ยั้ง ฝังทำนอง
๗ ลอออ่อน อ้อนละเอียด ละเมียดมาศ
วิเวกวาด พิลาศรัก สลักสอง
ฝากแสงโสม โคมฟ้า มาประคอง
รักเรืองรอง ร่มฟ้า ทั่วธาตรี
กฤษณา เวช.
๒๑/๐๘/๒๕๕๙
เสียงซอซึ้งใจ
โดย
รุจิเรข อภิรมย์
สวนฝันวรรณศิลป์ ยะลา
เนรมิตเนื้อร้องสนองฝัน
ผูกพันน้องมองเป็นเช่นดวงจันทร์
ไม่เหหันห่วงหาทุกนาที
๐ ยามจันทร์เพ็ญ เด่นดวง ห้วงเวหา
ดุจพักตรา เพ็ญผ่อง ของโฉมศรี
มาลอยวน ดลใจ ในราตรี
ดวงฤดี พี่คะนึง คิดถึงเธอ
๐ ยิ่งสายลม พรมพัดผิว พลิ้วแผ่วผ่าน
เย็นสะท้าน ทรวงสะท้อน ทุกข์เสมอ
กลิ่นไม้หอม ย้อมยั่วใจ ให้ละเมอ
จนพลั้งเผลอ เพ้อพจน์เพรียก เรียกหานาง
๐ มองฟ้าเหมือน เดือนเริ่มคล้อย ลอยต่ำแล้ว
ความเพริศแพร้ว ก้อยังพร้อม มิยอมสร่าง
ดุจพักตรา นารีนุช สุดสำอาง
มิเคยจาง เจิดแจ่มจ้า ชวนอาวรณ์
๐ ยามคะนึง คิดถึงเจ้า เฝ้าร่ำหา
หยิบซอมา สีสั่งซึ้ง ถึงสมร
ลาวดวงเดือน เยือนและย้ำ จำลาจร
โอ้บังอร อาลัยรัก เกินหักใจ
ไม่เหหันห่วงหาทุกนาที
๐ ยามจันทร์เพ็ญ เด่นดวง ห้วงเวหา
ดุจพักตรา เพ็ญผ่อง ของโฉมศรี
มาลอยวน ดลใจ ในราตรี
ดวงฤดี พี่คะนึง คิดถึงเธอ
๐ ยิ่งสายลม พรมพัดผิว พลิ้วแผ่วผ่าน
เย็นสะท้าน ทรวงสะท้อน ทุกข์เสมอ
กลิ่นไม้หอม ย้อมยั่วใจ ให้ละเมอ
จนพลั้งเผลอ เพ้อพจน์เพรียก เรียกหานาง
๐ มองฟ้าเหมือน เดือนเริ่มคล้อย ลอยต่ำแล้ว
ความเพริศแพร้ว ก้อยังพร้อม มิยอมสร่าง
ดุจพักตรา นารีนุช สุดสำอาง
มิเคยจาง เจิดแจ่มจ้า ชวนอาวรณ์
๐ ยามคะนึง คิดถึงเจ้า เฝ้าร่ำหา
หยิบซอมา สีสั่งซึ้ง ถึงสมร
ลาวดวงเดือน เยือนและย้ำ จำลาจร
โอ้บังอร อาลัยรัก เกินหักใจ
ความเป็นมาและเนื้อร้อง เพลงลาวดวงเดือน
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเพ็ญพัฒนพงศ์ กรมหมื่นพิไชยมหินทโรดม ได้เสด็จไปนครเชียงใหม่ เกิดชอบพอกับเจ้าหญิงชมชื่น พระธิดาองค์โตของเจ้าราชสัมพันธวงศ์และเจ้าหญิงคำย่น ณ ลำพูน โปรดให้ข้าหลวงใหญ่มณฑลพายัพเป็นเถ้าแก่เจรจาสู่ขอ แต่ได้รับการทัดทาน ไม่มีโอกาสที่จะได้สมรสกัน ทำให้พระองค์โศกเศร้ามาก ถึงกับระบายความรู้สึกลึกซึ้งนั้นออกมาเป็นเพลงลาวดวงเดือน ยามใดที่ทรงระลึกถึงเจ้าหญิงชมชื่นก็จะทรงดนตรีเพลงนี้หรือไม่ก็ให้มหาดเล็กเล่นให้ฟัง กระทั่งสิ้นพระชนม์ชีพในวัยเพียง ๒๘ พรรษา ด้วยโรคปอดเรื้อรัง แต่หลายคนบอกว่ามีสาเหตสำคัญมาจากทรงตรอมพระทัยอาลัยรักนั่นเอง
เนื้อร้องเพลงลาวดวงเดือน
โอ้ละหนอ ดวงเดือนเอย พี่มาเว้ารักเจ้าสาวคำดวง โอ้ว่าดึกแล้วหนอ พี่ขอลาล่วง อดพี่เป็นห่วงรักเจ้าดวงเดือนเอย
ขอลาแล้ว เจ้าแก้วโกสุม พี่นี้รักเจ้าหนอขวัญตาเรียม จะหาไหนมาเทียม โอ้เจ้าดวงเดือนเอ้ย(ซ้ำ)
หอมกลิ่นเกสร เกสรดอกไม้ หอมกลิ่นคล้ายคล้ายเจ้าสูเรียมเอย(ซ้ำ)
หอมกลิ่นกรุ่นครัน หอมนั้นยัง บ่ เลย เนื้อหอมทรามเชย เอยเราละเหนอ(ซ้ำ)
โอ้ละหนอ นวลตาเอย พี่นี้รักแสนรักดังดวงใจ โอ้เป็นกรรมต้องจำจากไป อกพี่อาลัยเจ้าดวงเดือนเอย
เห็นเดือนแรมเริศร้างเวหา เบิ่งดูฟ้า(ละหนอ)เห็นมืดมน พี่ทนทุกข์ทุกข์ทน โอ้เจ้าดวงเดือนเอย(ซ้ำ)
เสียงไก่ขันขาน เสียงหวานเจื้อยแจ้ว หวานสุดแล้วหวานแจ้วเจื้อยเอย(ซ้ำ)
ทั้งหมดนี้เก็บความมาจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ฟังเสียงร้องแสนไพเราะ ของ คุณดวงพร ผาสุข นะครับ
เนื้อร้องเพลงลาวดวงเดือน
โอ้ละหนอ ดวงเดือนเอย พี่มาเว้ารักเจ้าสาวคำดวง โอ้ว่าดึกแล้วหนอ พี่ขอลาล่วง อดพี่เป็นห่วงรักเจ้าดวงเดือนเอย
ขอลาแล้ว เจ้าแก้วโกสุม พี่นี้รักเจ้าหนอขวัญตาเรียม จะหาไหนมาเทียม โอ้เจ้าดวงเดือนเอ้ย(ซ้ำ)
หอมกลิ่นเกสร เกสรดอกไม้ หอมกลิ่นคล้ายคล้ายเจ้าสูเรียมเอย(ซ้ำ)
หอมกลิ่นกรุ่นครัน หอมนั้นยัง บ่ เลย เนื้อหอมทรามเชย เอยเราละเหนอ(ซ้ำ)
โอ้ละหนอ นวลตาเอย พี่นี้รักแสนรักดังดวงใจ โอ้เป็นกรรมต้องจำจากไป อกพี่อาลัยเจ้าดวงเดือนเอย
เห็นเดือนแรมเริศร้างเวหา เบิ่งดูฟ้า(ละหนอ)เห็นมืดมน พี่ทนทุกข์ทุกข์ทน โอ้เจ้าดวงเดือนเอย(ซ้ำ)
เสียงไก่ขันขาน เสียงหวานเจื้อยแจ้ว หวานสุดแล้วหวานแจ้วเจื้อยเอย(ซ้ำ)
ทั้งหมดนี้เก็บความมาจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ฟังเสียงร้องแสนไพเราะ ของ คุณดวงพร ผาสุข นะครับ
ลาวดวงเดือน
ขับร้อง โดย ดวงพร ผาสุข
พระคุณเจ้า สุ.ป.กวี เมตตารจนาบทกลอนประกอบเพลงลาวดวงเดือนได้สุดแสนประทับใจ จึงขออนุญาตท่านนำมาประดับไว้ ณ สวนฝันวรรณศิลป์ ยะลา แห่งนี้ด้วย เชิญลิ้มรสบทสัลลาปังคพิไสยที่สุดแสนเศร้าซึ้งได้ ณ บัดนี้
ฝากใจไว้กับเดือน
แต่แรกพบสบตาพาประสาน
ได้พบพานเรียมรองละอองขวัญ
เพราะบุพเพจึงจำพรากให้จากกัน
มีแต่วันจะกล้ำกลืนฝืนกมล
เพราะความรักไม่สมจึงตรมจิต
เฝ้าแต่คิดถึงแน่งน้อยเป็นร้อยหน
หากจะเป็นเพราะกรรมก็จำทน
ถึงหมองหม่นก็มิโกรธหรือโทษใคร
จึงเหลือซอเก็บไว้ใช้ต่างหน้า
ได้พบพานเรียมรองละอองขวัญ
เพราะบุพเพจึงจำพรากให้จากกัน
มีแต่วันจะกล้ำกลืนฝืนกมล
เพราะความรักไม่สมจึงตรมจิต
เฝ้าแต่คิดถึงแน่งน้อยเป็นร้อยหน
หากจะเป็นเพราะกรรมก็จำทน
ถึงหมองหม่นก็มิโกรธหรือโทษใคร
จึงเหลือซอเก็บไว้ใช้ต่างหน้า
หยิบขึ้นมาบรรเลงเสียงเพลงใส
หยาดน้ำตารินรดสลดใจ
เหมือนทรามวัย มาพร่ำเพรียก เรียกหากัน
มนต์เสียงซออ้ออี๋สีเพลงโศก
ครวญวิโยคอกเราจึงเศร้าศัลย์
พระทัยเธอโศกาจึงจาบัลย์
ฝากรำพันตอนดำเนินเดินตามเกวียน
สุ.ป.กวี
หยาดน้ำตารินรดสลดใจ
เหมือนทรามวัย มาพร่ำเพรียก เรียกหากัน
มนต์เสียงซออ้ออี๋สีเพลงโศก
ครวญวิโยคอกเราจึงเศร้าศัลย์
พระทัยเธอโศกาจึงจาบัลย์
ฝากรำพันตอนดำเนินเดินตามเกวียน
แม้ฝรั่งก็ยังร้องเพลง ... ลาวดวงเดือน ...
๐ แต่แรกพบสบตาพาประสาน
ได้พบพานเรียมรองละอองขวัญ
เพราะบุพเพจึงจำพรากให้จากกัน
มีแต่วันจะกล้ำกลืนฝืนกมล
๐ เพราะความรักไม่สมจึงตรมจิต
เฝ้าแต่คิดถึงแน่งน้อยเป็นร้อยหน
หากจะเป็นเพราะกรรมก็จำทน
ถึงหมองหม่นก็มิโกรธหรือโทษใคร
๐ จึงเหลือซอเก็บไว้ใช้ต่างหน้า
หยิบขึ้นมาบรรเลงเสียงเพลงใส
หยาดน้ำตารินรดสลดใจ
เหมือนทรามวัยมาพร่ำเพรียกเรียกหากัน
๐ มนต์เสียงซออ้ออี๋สีเพลงโศก
ครวญวิโยคอกเราจึงเศร้าศัลย์
พระทัยเธอโศกาจึงจาบัลย์
ฝากรำพันตอนดำเนินเดินตามเกวียน
สุ.ป.กวี
ได้พบพานเรียมรองละอองขวัญ
เพราะบุพเพจึงจำพรากให้จากกัน
มีแต่วันจะกล้ำกลืนฝืนกมล
๐ เพราะความรักไม่สมจึงตรมจิต
เฝ้าแต่คิดถึงแน่งน้อยเป็นร้อยหน
หากจะเป็นเพราะกรรมก็จำทน
ถึงหมองหม่นก็มิโกรธหรือโทษใคร
๐ จึงเหลือซอเก็บไว้ใช้ต่างหน้า
หยิบขึ้นมาบรรเลงเสียงเพลงใส
หยาดน้ำตารินรดสลดใจ
เหมือนทรามวัยมาพร่ำเพรียกเรียกหากัน
๐ มนต์เสียงซออ้ออี๋สีเพลงโศก
ครวญวิโยคอกเราจึงเศร้าศัลย์
พระทัยเธอโศกาจึงจาบัลย์
ฝากรำพันตอนดำเนินเดินตามเกวียน
สุ.ป.กวี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น