ดุจบัวบาน
เธอดังดอกบัวบานบนลานโลก
ยามลมโกรกกวัดไกวไหวมิหวั่น
สติเตือนตั้งอยู่อย่างรู้ทัน
พระพายผันผ่านพบแล้วหลบไป
ยามลมโกรกกวัดไกวไหวมิหวั่น
สติเตือนตั้งอยู่อย่างรู้ทัน
พระพายผันผ่านพบแล้วหลบไป
รุจิเรข อภิรมย์
จำนรรจ์กลอน อ่อนลออ พะนอโลก
ช่างมีโชค ชวนเชย เป็นเตยไหว
หอมอ่อนอ่อน ธรรมรส บทประไพ
เสริมทรวงใน ใสเย็น เห็นลำยอง
จงหมั่นเพียรเวียนพินิจชิดธรรมรส
จะปรากฏพิกัดสัจจะผอง
เห็นไตรลักษณ์ประจักษ์ผลมิทนปอง
คลายคิดครองของรอบข้างปล่อยวางพลัน
คลายคิดครองของรอบข้างปล่อยวางพลัน
รุจิเรข อภิรมย์
ชีวิตวน คนเรา ก็เท่านี้
ไม่เห็นมี อะไร ให้สุขสันต์
มีแต่สิ่ง สมมุติ ดุจทางตัน
สักกี่วัน ก็วอดวาย สลายตน
ยามเห็นชัดสัจจะยอมละลด
และเลิกหมดไม่โหยหาให้สับสน
จนใจหยุดหลุดพันธะมาปะปน
เปลี่ยนจากคนคืนมนุษย์ดุจบัวบาน
รุจิเรข อภิรมย์
ตอบลบ11:42
Kritsana Vejjasilpa...
๐ จะติดตาม สวนขวัญ วรรณศิลป์
จะประทิน กลอนทาบ อาบสวรรค์
สวนแห่งจิต ลิขิตจอง ปองผูกพัน
ร้อยจำนรรจ์ พันจำเนียร เพียรบทเพลง
สวนนี้มี ดอกใจ ประกายฝัน
ลบนกจำนรรจ์ สวรรค์นัก คนรักเขียน
ภรมย์ศิลป์ วรรณศร กลอนวิเชียร
จะปักเทียน ส่งประทีป เป็นกลีบกลอน
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ลบสุ.ป. กวี ไพเราะธรรมรส จ้าอาจารย์รุจ
ตอบลบรุจิเรข อภิรมย์ ...นมัสการด้วยความเคารพขอรับ
Kritsana Vejjasilpa
...อยากเป็นบัว บานสล้าง กลางสระศรี
ภู่เปรมปรีดิ์ ปรุงอุรา หาเกสร
ไล้รสหวาน สานพจน์ ในบทกลอน
ท่ามแดดอ่อน ตอนสุรีย์ คลี่แสงคลุม
ชื่นผกา