ฤาจะลืม
จูบแล้วลา
๐ ยามหลับตา ยังจำ ดั่งย้ำตอก
ในม่านหมอก เลือนลาง มิจางหาย
ระทึกสั่น หวั่นไหว ทั้งใจกาย
สะเทิ้นอาย อ่อนแรง ดั่งแกล้งทำ
๐ เพียงแผ่วพริ้ว ผิวเนื้อ ก็เอื้ออุ่น
หอมกลิ่นกรุ่น อกกว้าง ช่างชื่นฉ่ำ
ในอ้อมแขน แสนหวาน จารจดจำ
ยอมถลำ ตกบ่วง สู่ห้วงใจ
๐ จุมพิตแผ่ว ฝากรอย สักร้อยครั้ง
ขอความหวัง จุดฝัน จิตหวั่นไหว
ยามพริ้มตา ลอบแล แพ้หทัย
กลัวเขาไม่ รักจริง ทิ้งให้อาย
๐ สายลมพลิ้ว ริ้วหมอก ฝากบอกเขา
มีคนเฝ้า คิดถึง ซึ้งใจหลาย
ยังรักรอ ขอตรึง เพียงหนึ่งชาย
ตราบชีพวาย คงมั่น ทุกวันคอย
คืนจันทร์แรม
ที่ยากจะลืม
พี่จะไม่มีวันลืมคืนปลื้มเธอ
๐ เพียงลมแผ่ว แว่วคำร้อย ที่พลอยฝาก
ซึ้งใจมาก อยากบอกว่า อย่าเศร้าสร้อย
จงหมั่นมอง ท้องนภา คาราลอย
เมฆาค่อย คล้อยเคลื่อน เหมือนม่านพลัน
๐ สุดสวยงาม ในยามยล บนฟากฟ้า
แสงจันทรา ส่องสว่าง ข้างแรมนั่น
รูปคิ้วนาง เรียวบางโค้ง โยงใจพัน
คิดถึงกัลย์ ณ ทันใด ใจสั่นรัว
๐ คิ้วนางนี้ พี่เคยพิศ จุมพิตแผ่ว
จำได้แล้ว แก้วพริ้มตา ใช่ว่ายั่ว
แต่สำแดง แห่งอารมณ์ ข่มความกลัว
ที่หลงกลั้ว เกลือกกิเลศ ของเพศชาย
๐ แต่ความรัก ที่ถักโถม โหมใจอยู่
มิให้รู้ หนทางรอด ปลอดจุดหมาย
กายจึงสั่น ด้วยหวั่นไหว ใจก้ออาย
ยากทะลาย แรงกดดัน ที่กั้นกาง
๐ พี่มองซึ้ง ถึงอากัป จึงรับได้
กระซิบไซร้ ที่ซอกหู พอรู้บ้าง
บอกจะเลิก ไม่รังแก ให้ระคาง
ขอเคียงข้าง น้องคนดี ไม่หนีไกล
๐ เจ้าลืมตา ขึ้นมามอง จ้องสบซึ้ง
พี่ตะลึง จนลืมตัว ชั่ววูบใหญ่
มนต์เสน่ห์ นัยนา พาตรึงใจ
พี่จะไม่ มีวันลืม ...คืนปลื้มเธอ
ที่รัก, เธอคงจำจันทร์แรมคืนนั้นได้ !
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น