สวนฝัน

สวนฝัน

วันอังคารที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2559

บุหลันลอยฟ้า




ใต้เงาจันทร์

โดย
รุจิเรข  อภิรมย์


                     ๐  พี่ขับซอ  สามสาย  หมายกล่อมขวัญ
                     หลับตาพลัน  อย่าหวั่นไหว  ในสิ่งผอง
                     คงจำได้  ใต้เงาจันทร์  วันนั่งมอง
                     ใครประคอง  คอยเคียงข้าง  มิห่างกาย

                       อุ่นไออวล  กลิ่นนวลหอม  ย้อมใจนัก
                     กลิ่นนี้จัก  จับใจจน  ป่นสลาย
                     นานเท่านาน  สักปานใด  ไม่เสื่อมคลาย
                     เป็นที่หมาย  เหมือนน้องมี  ที่กลางใจ

                     ๐  เจ้าใช้ตัก  พี่ต่างหมอน  อยากนอนฝัน
                     กลางแสงจันทร์  จรัสจ้า  ฟ้าแจ่มใส
                     คอยนับดาว  พราวเพริศฟ้า  อ่าอำไพ
                     นับเรื่อยไป  จนใจนิ่ง  กับสิ่งเดียว

                     ๐  บุหลันเริ่ม  ลอยเลื่อนล่อง  ท่องฟ้าแจ่ม
                     มีเมฆแซม  บ้างส่วนน้อย  ดุจก้อยเกี่ยว
                     เปรียบเราสอง  ปองผูกพัน  มั่นคงเทียว
                     สองใจเกลียว  กอดกระหวัด  รัดรึงกัน

                     ๐  ซอกระเส่า  เสียงสะอื้น  สุดฝืนสั่ง
                     เหมือนใครหลั่ง  ชลนัยน์  อาลัยฝัน
                     ซอสะดุด  หยุดสำเนียง  เพียงเท่านั้น
                     ก่อนบุหลัน  ลอยลับฟ้า  คราอรุณ


                      

           












๑  บุหลันลอย  เลื่อนฟ้า  มาตรงนี้
รมณีย์  รวยรื่น  ชื่่นผสาน
เสียงสายซอ  ซ่านซึ้ง  ตรึงดวงมาลย์

พาดพริ้วผ่าน  เพลินพร่ำ  ย่ำค่ำยิน

 ๒  ซอสามสาย  หวานซึ้ง  ประหนึ่งสรวง

 ประคองควง  เคียงข้าง  วางถวิล
 กรุ่นหอมรัก  สลักล้น  ท้นดวงจินต์
 ปรุงประทิน  กลิ่นโถม  เล้าโลมทรวง

๓  นวลจันทร์แสง  แฝงสื่อ  คือสวรรค์
ดังจำนรรจ์  พี่นัก  ประจักษ์สรวง
                              ขอแนบใจ  หทัยนี้  ฤดีดวง
                              ประคองควง  เคียงข้าง  มิจางใจ


                              ๔  ขอบุหลัน  อย่าลา  ฟ้าสลด
                              เสียงซอสด  สุดซึ้ง  ตรึงหลงใหล
                              ซบตักพี่  มีซอ  คลอหทัย
                              อุ่นอิงไอ  แอบอ้อน  นอนนิทรา


                              ๕.สำเนียงซอ สามสาย พระพายพัด
                              กลิ่นหอมชัด คัดเค้า เย้าอิฏฐา
                              หทัยางค์ ดังวางวับ ซับลมลา
                              ดนตรีพา ตาหลับพริ้ม  อิ่มอกเอย

กฤษณา  เวช.













เพลงพิณ ในสายลม ๐ เจ้าใช้ตัก พี่ต่างหมอน อยากนอนฝัน•• อยาก
                           มีแบบนี้จัง 
                           ไพเราะ อีกแล้วค่ะ 🌻🌻

รุจิเรข อภิรมย์ ... อ๊ะ อ๊ะ มีหมอนหนุนอยู่แล้วมิใช่หรือ ?

เพลงพิณ ในสายลม หมอนผ้ามีแล้ว แต่"ตักพี่" นี่ยังเลยค่ะ😊





รุจิเรข อภิรมย์ เพลงพิณ ในสายลม ...ทำไงดี ตักพี่มีคนหนุนนอนอยู่
                                                       ก่อนแล้ว








คุณใบบุญ  รัตนาวดี   กรุณานำบทกลอนใต้เงาจันทร์ไปโพสต์ในเพจ บ้านกลอน  ปรากฎว่ามีเพื่อน ๆ ให้ความสนใจไปแสดงความคิดเห็นกันหลายคน  ล้วนมีคุณค่าควรแก่การบันทึกไว้ในสวนฝันวรรณศิลป์  ยะลา  ด้วย  ผมจึงก็อปปี้มาเก็บไว้ที่นี่ครับ
✿•*¨`*•.¸(¯`v´¯)¸.•´*¨`*•✿
.
* 1 *
.
ใต้เงาจันทร์.....
.
๐ พี่ขับซอ สามสาย หมายกล่อมขวัญ
หลับตาพลัน อย่าหวั่นไหว ในสิ่งผอง
คงจำได้ ใต้เงาจันทร์ วันนั่งมอง
ใครประคอง คอยเคียงข้าง มิห่างกาย
.
๐ อุ่นไออวล กลิ่นนวลหอม ย้อมใจนัก
กลิ่นนี้จัก จับใจจน ป่นสลาย
นานเท่านาน สักปานใด ไม่เสื่อมคลาย
เป็นที่หมาย เหมือนน้องมี ที่กลางใจ
.
๐ เจ้าใช้ตัก พี่ต่างหมอน อยากนอนฝัน
กลางแสงจันทร์ จรัสจ้า ฟ้าแจ่มใส
คอยนับดาว พราวเพริศฟ้า อ่าอำไพ
นับเรื่อยไป จนใจนิ่ง กับสิ่งเดียว
.
๐ บุหลันลอย เลื่อนล่อง ท่องฟ้าแจ่ม
มีเมฆแซม บ้างส่วนน้อย ดุจก้อยเกี่ยว
เปรียบเราสอง ปองผูกพัน มั่นคงเทียว
สองใจเกลียว กอดกระหวัด รัดรึงกัน
.
๐ ซอกระเส่า เสียงสะอื้น สุดฝืนสั่ง
เหมือนใครหลั่ง ชลนัยน์ อาลัยฝัน
ซอสะดุด หยุดสำเนียง เพียงเท่านั้น
ก่อนบุหลัน ลอยลับฟ้า คราอรุณ
.
รุจิเรข อภิรมย์
สวนฝันวรรณศิลป์

✿•*¨`*•.¸(¯`v´¯)¸.•´*¨`*• ✿•*¨`*•.¸(¯`v´¯)¸.•´*¨`*•✿
ขอบคุณGoogleภาพค้นหา
ดูเพิ่มเติม


ความคิดเห็น
 สวนฝันวรรณศิลป์ ...โห ขอบคุณที่กรุณานำโพสต์นี้มา
                               แบ่งปันกันอีกครั้ง

                                     ๐ ใบบุญแบ่งบทกวีที่ฉันรัก
                                                                            เอามาปักประกาศกานท์งานศิลป์สุนทร์
                                     คงหวังก่อต่อกลอนอ่อนละมุล
                                     เอื้อไออุ่นอ้อนหาในราตรี

                                     ๐  จะคอยอ่านงานล้ำค่าที่มาต่อ
                                     แม้ต้องรอหลายเวลาหาหน่ายหนี
                                     ดาวจะเคลื่อนเดือนจะคล้อยก็คอยที
                                     อยู่ที่นี่นะน้องนางจงวางใจ
...
ดูเพิ่มเติม



จะคอยขวัญใจ

คำร้อง/ทำนอง เนรัญชรา ขับร้องต้นฉบับ สุเทพ วงศ์กำแหง…

youtube.com


Bai Bun Rattanawadee

...แว่วลำนำ บทกวี ที่เรียกหา
ยามจันทรา คล้อยเคลื่อน เยือนฟ้าใหม่
เสียงบทเพลง กล่อมลอย คอยขวัญใจ
หนึ่งคนไกล สับสน ด้วยมนตรา..
.
..บรรจงร้อย วรรคกลอน ก่อนดึกดื่น
ในค่ำคืน ดวงดาว พราวสง่า
ลำนำหมาย ร่ายฝาก จากอุรา
ปรารถนา เธออ่าน แล้วซ่านทรวง...
.
สวัสดียามดึกจ้า ขอบคุณมากที่สะกิดใจให้แต่งกลอนจ้า


สวนฝันวรรณศิลป์ ...โห ยอดเยี่ยมมาก สักครู่จะต่อให้ 
                            ขอคุยกับเพื่อนสักแป๊ป


เดือนช่วง เพ็ญจันทร์

                          ๐  ทางช้างเผือกทอดผ่านม่านฟ้าดึก
                          ให้หวลนึกถึงนางอย่างหวงห่วง
                          ดาวกระพริบวิบวาวสกาวดวง
                          คอยเดือนช่วงเพ็ญจันทร์นั้นมาเยือน



สวนฝันวรรณศิลป์ ...ไพเราะครับ

อยากชี้ชวนนวลน้องจ้องราวฟ้า
คืนจันทราเคียงดาวคราวนี้เหมือน
พี่คลอเคล้าเจ้าอยู่มิรู้เลือน
ภาพจักเตือนใจมั่นไร้วันลวง





สวนฝันวรรณศิลป์ ตอบคุณ Bai Bun Rattanawadee ครับ///

...พี่นอนมองหมู่ดาวพราวพร่างฟ้า
เหมือนสายตาเราสองจ้องและห่วง
ตาสบตาพาฝันสรรค์สุขปวง
ยิ่งยามล่วงช่วงค่อนคืนยิ่งตื่นตา

๐ แสนเสียดายสายใจอยู่ไกลพี่
ในยามที่ฤทัยเหงาเราผวา
ด้วยโดดเดี่ยวเปลี่ยวกมลล้นอุรา
ราวกับว่าโลกร้างอ้างว้างเกิน

๐ ยิ่งเดือนคล้อยลอยห่างจากกลางฟ้า
ดวงดาวพร่าพรางแสงแหนงหาวเหิน
ดุเหว่าร้องก้องกู่หาคู่เพลิน
ดุจเราเดินแดนหนาวคราวค่ำคืน

๐ สายลมพริ้วหวิวหวั่นน่าครั่นคร้าม
สุดจักห้ามหักใจมิให้ฝืน
คิดถึงน้องอยากครองกายหมายเป็นฟืน
คอยหยิบยื่นอุ่นไอไปสู่กัน

๐ บุหลันเลื่อนเคลื่อนคล้อยลอยต่ำแล้ว
ใกล้ลับแนวเนินพนาอุษาสวรรค์
เบิกอรุณเรืองรองผุดผ่องพรรณ
ตื่นจากฝันใฝ่หาดารณี

 
https://www.youtube.com/watch?v=3Dad19B3GkQ




..ขอขอบคุณ สำเนียง ร้อยเรียงฝัน
ถ้อยรำพัน รั้งทรวง ห่วงใยพี่
จะคืนผัน วันผ่าน แม้นานปี
กลอนบทนี้  ยังคง  ฝังตรงใจ



ขอบคุณสำหรับบทกลอนที่ประทับใจมากจ้าคุณพี่รุจิเรข อภิรมย์  หลับ ฝันดี ราตรีสวัสดิ์จ้า...ดูเพิ่มเติม



Thongphul Hansamart

                        ณ สวนฝันวรรณศิลป์ถิ่นกลอนบท
                        งามหมดจดครบสำเนียงเรียงอักษร
                        งานชั้นครูผู้เปรื่องปราชญ์ชนชาติกลอน
                        สุดสุนทรคมโวหารกานท์กวี

                        ตามอ่านตลอดครับพี่ ...

สวนฝันวรรณศิลป์ ...ด้วยรักและผูกพันครับน้องทองพูล มิตรภาพ
                    ของเรามิเคยจืดจาง แม้รู้จักกันมานานปีแล้ว  แต่พี่ก็
                    ยังรักน้องเสมอและยิ่งรักมากขึ้นครับ


สวนฝันวรรณศิลป์ ...คุณAngela Chaisilp เขียนตอบไว้ในบ้านกลอน ไพเราะมาก เลยลากคอมเม้นท์ชุดนั้นมาไว้ที่นี่ด้วย
Angela Chaisilp
...ดูเพิ่มเติม





                                        ๐  ไพเราะเอย  เคยฟังซอ  กล่อมหอห้อง
                           เคยคลอร้อง  กับซอพี่  สีเคล้ากรุ่น
                           ลมรำเพย  เชยพะยอม  หอมละมุน
                           ดอกพิกุล  แก้วแซม  แก้มนวลปราง

                           ๐  พี่เคยชม  ดมดอม  ว่าหอมนัก
                           น้องหนุนตัก  หลับใหล  จนใกล้สาง
                           บัดนี้ไย  พี่ยา  มาลาร้าง
                           น้องอ้างว้าง  ไร้คู่  ...อยู่ดายเดียว






  สวนฝันวรรณศิลป์   โห  เก่งจังเลย  ชอบ  ชอบ

                     ๐  การพลัดพราก  จากกัน  ในวันก่อน
                     นั่นสะท้อน  สัจธรรม  กรรมข้องเกี่ยว
                     ให้เราพบ  แล้วต้องพราก  หลุดจากเกลียว
                     มิอาจเหนี่ยว  รั้งไว้  ได้ดั่งใจ

                     ๐  บุญเราน้อย  ต้องปล่อยวาง  จึงห่างโศก
                     อย่าให้โลกย์  โลมล้น  จนหวั่นไหว
                     อาจคิดถึง  กันบ้าง  ยามห่างไกล
                     เพราะเยื่อใย  ไมตรี  ยังมีกัน

                     ๐  ยามพระลบ  ลับแสง  สุรีย์ศรี
                     พี่ชอบสี  ซอสามสาย  คลายเพ้อฝัน
                     หวังสายลม พรมผ่าน  บ้านน้องนั้น
                     หอบเสียงดั้น  ด้นมา  หานงคราญ

                    ๐  คืนพระจันทร์  เพ็ญดวง  ช่วงโชติชื่น
                    ซอสะอื้น  อาลัย  นัยนุ่มหวาน
                    เป็นเพลงเศร้า  ลาวดวงเดือน  เหมือนวันวาน
                    ที่น้องขาน  ขับคลอ  ซอพี่ยา

                    ๐  เพลงบุหลัน  ลอยเลื่อน  ไม่เหมือนก่อน
                    ตักน้องนอน  นั้นว่าง  วางไร้ค่า
                    ซอเคยซึ้ง  จึงเศร้า  เคล้าน้ำตา
                    จักมีวัน  ไหมน้าาา  ...ถ้าเจอกัน !

                       พี่ยังรักและคิดถึงเธอเสมอ

                              รุจิเรข  อภิรมย์
                       สวนฝันวรรณศิลป์  ยะลา
                                ๔/๙/๒๕๕๙












คอย




คอย

 สายรุ้งโค้งคาดฟ้าเวลาเช้า
เมฆเศร้าเศร้าบางส่วนชวนหม่นหมอง
แต่สีฟ้าครามขาวคราวคอยมอง
เหมือนสีทองของสุรีย์เริ่มคลี่คลาย

น้ำกระเพื่อมเลื่อมละลอกบอกเคลื่อนไหว
ชีวิตใหม่  มาเยือนย้อน  ยามก่อนสาย
วิหคน้อยคอยคู่อยู่เดียวดาย

เป็นภาพฉายชวนคิดพินิจนัย

                                แม้รอบกายเริ่มกรุ่นไออุ่นแล้ว
                                ตลอดแนวนัยนาน่าพิสมัย
                                ชะอุ่มเขียวของพืชพันธ์พิมพ์ฤทัย
                                คงอาลัยคราวอำลาคอยหานาง

                                นกตัวน้้น  นึกเหมือนฉัน  ในวันนี้
                                ยังไม่มีใครเคียงคู่อยู่ข้างข้าง
                                หันหนใดใจหดหู่ดูอ้างว้าง
                                สุขเลยสร่างห่างไม่เห็นเว้นว่างเธอ

                                หากมีบุญหนุนค้ำคอยนำส่ง
                                เทพไทคงสงสารบ้างเปิดทางเสนอ
                                ให้พบนวลนฤมลคนเคยเจอ
                                คอยนะเอออรอนงค์คงไม่นาน





                  





วันอาทิตย์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2559

อาลัยรัก





 ดวงเดือน...ที่รัก

               

    ๑  ยินสำเนียง  เสียงซอ  มาทอทัก
    หวานแว่วนัก  สลักจินต์  ถิ่นความฝัน
    ลาวดวงเดือน  เหมือนมีมนต์  ดลผูกพัน
    แว่วจำนรรจ์  หวานจำเนียร  เทียนธูปใจ


                       ๒  แสนซึ้งทรวง  ด้วงเสียง  จำเรียงสาน
                       สุดสะท้าน  ดาลดิ้น  ถวิลไหว
                       เสนาะรส  บททำนอง  จองหทัย
                       ซ่านซึ้งใน  ใจนัก  ประจักษ์จินต์

                        ๓  โอ้ละหนอ  ดวงเดือนเอย    เคยลอยเด่น
                        เปรียบดังเช่น  ความรัก  จักไม่สิ้น
                        แสงเจ้าแสน  ยิ่งใหญ่  ในธานินทร์
                        สุดถวิล  ถิ่นบุหลัน  จันทร์ดารา

                        ๔  เป็นเพลงเศร้า  เคล้าโศก  วิโยกสื่อ
                        พลัดพรากคือ  เนื้อเพลง  บรรเลงว่า
                        เจ้าเพ็ญ  พัฒนพงษ์  ทรงไคลคลา
                        รอนแรมมา  ถิ่นอีสาน  ฐานไหมไทย

                        ๕  นั่งบนเกวียน  เขียนอักษร  กลอนเป็นสาร
                        จิตส่งผ่าน  กานท์คิดถึง  คะนึงใฝ่
                        หญิงผู้ซึ่ง  ทรงรัก  ปักฤทัย
                        ทอสายใย  ในเพลง  บรรเลงลง

                        ๖  เมื่อกลับกรุง  เพลงก็  ทอแสงสี
                        แต่ฤดี  พระองค์ดับ  ลับหล้าหลง
                        ยี่สิบแปด  พระชนม์สิ้น  ชีวินปลง
                        ผลงานยง  อยู่ยั้ง  ฝังทำนอง

                        ๗  ลอออ่อน  อ้อนละเอียด  ละเมียดมาศ
                        วิเวกวาด  พิลาศรัก  สลักสอง
                        ฝากแสงโสม  โคมฟ้า  มาประคอง
                        รักเรืองรอง  ร่มฟ้า  ทั่วธาตรี


                                    กฤษณา  เวช.
                                   ๒๑/๐๘/๒๕๕๙

                           





   
เสียงซอซึ้งใจ

                                                  โดย

                                           รุจิเรข  อภิรมย์
                                    สวนฝันวรรณศิลป์  ยะลา


   



๐  เสียงซอซึ้งซ่านซับจับดวงจิต
เนรมิตเนื้อร้องสนองฝัน
ผูกพันน้องมองเป็นเช่นดวงจันทร์
ไม่เหหันห่วงหาทุกนาที

๐  ยามจันทร์เพ็ญ  เด่นดวง  ห้วงเวหา
ดุจพักตรา  เพ็ญผ่อง  ของโฉมศรี
มาลอยวน  ดลใจ  ในราตรี
ดวงฤดี  พี่คะนึง  คิดถึงเธอ


                              ๐  ยิ่งสายลม  พรมพัดผิว  พลิ้วแผ่วผ่าน
                              เย็นสะท้าน  ทรวงสะท้อน  ทุกข์เสมอ
                              กลิ่นไม้หอม  ย้อมยั่วใจ  ให้ละเมอ
                              จนพลั้งเผลอ  เพ้อพจน์เพรียก  เรียกหานาง


            ๐  มองฟ้าเหมือน  เดือนเริ่มคล้อย  ลอยต่ำแล้ว
            ความเพริศแพร้ว  ก้อยังพร้อม  มิยอมสร่าง
            ดุจพักตรา  นารีนุช  สุดสำอาง
            มิเคยจาง  เจิดแจ่มจ้า  ชวนอาวรณ์


    
                          ๐  ยามคะนึง  คิดถึงเจ้า  เฝ้าร่ำหา
                              หยิบซอมา  สีสั่งซึ้ง  ถึงสมร
                              ลาวดวงเดือน  เยือนและย้ำ  จำลาจร
                              โอ้บังอร  อาลัยรัก  เกินหักใจ 

                                        







         ความเป็นมาและเนื้อร้อง  เพลงลาวดวงเดือน
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ  พระองค์เจ้าเพ็ญพัฒนพงศ์  กรมหมื่นพิไชยมหินทโรดม  ได้เสด็จไปนครเชียงใหม่  เกิดชอบพอกับเจ้าหญิงชมชื่น  พระธิดาองค์โตของเจ้าราชสัมพันธวงศ์และเจ้าหญิงคำย่น ณ ลำพูน  โปรดให้ข้าหลวงใหญ่มณฑลพายัพเป็นเถ้าแก่เจรจาสู่ขอ  แต่ได้รับการทัดทาน  ไม่มีโอกาสที่จะได้สมรสกัน  ทำให้พระองค์โศกเศร้ามาก  ถึงกับระบายความรู้สึกลึกซึ้งนั้นออกมาเป็นเพลงลาวดวงเดือน  ยามใดที่ทรงระลึกถึงเจ้าหญิงชมชื่นก็จะทรงดนตรีเพลงนี้หรือไม่ก็ให้มหาดเล็กเล่นให้ฟัง  กระทั่งสิ้นพระชนม์ชีพในวัยเพียง ๒๘ พรรษา  ด้วยโรคปอดเรื้อรัง  แต่หลายคนบอกว่ามีสาเหตสำคัญมาจากทรงตรอมพระทัยอาลัยรักนั่นเอง

เนื้อร้องเพลงลาวดวงเดือน

โอ้ละหนอ  ดวงเดือนเอย  พี่มาเว้ารักเจ้าสาวคำดวง  โอ้ว่าดึกแล้วหนอ  พี่ขอลาล่วง  อดพี่เป็นห่วงรักเจ้าดวงเดือนเอย
ขอลาแล้ว  เจ้าแก้วโกสุม  พี่นี้รักเจ้าหนอขวัญตาเรียม  จะหาไหนมาเทียม  โอ้เจ้าดวงเดือนเอ้ย(ซ้ำ)

หอมกลิ่นเกสร  เกสรดอกไม้  หอมกลิ่นคล้ายคล้ายเจ้าสูเรียมเอย(ซ้ำ)
หอมกลิ่นกรุ่นครัน  หอมนั้นยัง บ่ เลย  เนื้อหอมทรามเชย  เอยเราละเหนอ(ซ้ำ)

โอ้ละหนอ  นวลตาเอย  พี่นี้รักแสนรักดังดวงใจ  โอ้เป็นกรรมต้องจำจากไป  อกพี่อาลัยเจ้าดวงเดือนเอย
เห็นเดือนแรมเริศร้างเวหา  เบิ่งดูฟ้า(ละหนอ)เห็นมืดมน  พี่ทนทุกข์ทุกข์ทน  โอ้เจ้าดวงเดือนเอย(ซ้ำ)

เสียงไก่ขันขาน  เสียงหวานเจื้อยแจ้ว  หวานสุดแล้วหวานแจ้วเจื้อยเอย(ซ้ำ)

ทั้งหมดนี้เก็บความมาจากวิกิพีเดีย  สารานุกรมเสรี

ฟังเสียงร้องแสนไพเราะ  ของ  คุณดวงพร  ผาสุข  นะครับ



ลาวดวงเดือน
ขับร้อง โดย ดวงพร  ผาสุข



พระคุณเจ้า สุ.ป.กวี  เมตตารจนาบทกลอนประกอบเพลงลาวดวงเดือนได้สุดแสนประทับใจ  จึงขออนุญาตท่านนำมาประดับไว้ ณ สวนฝันวรรณศิลป์ ยะลา แห่งนี้ด้วย  เชิญลิ้มรสบทสัลลาปังคพิไสยที่สุดแสนเศร้าซึ้งได้ ณ บัดนี้




ฝากใจไว้กับเดือน


            แต่แรกพบสบตาพาประสาน
            ได้พบพานเรียมรองละอองขวัญ
            เพราะบุพเพจึงจำพรากให้จากกัน
            มีแต่วันจะกล้ำกลืนฝืนกมล

            เพราะความรักไม่สมจึงตรมจิต
            เฝ้าแต่คิดถึงแน่งน้อยเป็นร้อยหน
            หากจะเป็นเพราะกรรมก็จำทน
            ถึงหมองหม่นก็มิโกรธหรือโทษใคร

           

            จึงเหลือซอเก็บไว้ใช้ต่างหน้า
            หยิบขึ้นมาบรรเลงเสียงเพลงใส
            หยาดน้ำตารินรดสลดใจ
            เหมือนทรามวัย มาพร่ำเพรียก เรียกหากัน

            มนต์เสียงซออ้ออี๋สีเพลงโศก
                 
            ครวญวิโยคอกเราจึงเศร้าศัลย์
            พระทัยเธอโศกาจึงจาบัลย์
            ฝากรำพันตอนดำเนินเดินตามเกวียน


          
                            สุ.ป.กวี

        




แม้ฝรั่งก็ยังร้องเพลง ... ลาวดวงเดือน ...



๐  แต่แรกพบสบตาพาประสาน
ได้พบพานเรียมรองละอองขวัญ
เพราะบุพเพจึงจำพรากให้จากกัน
มีแต่วันจะกล้ำกลืนฝืนกมล
๐  เพราะความรักไม่สมจึงตรมจิต
เฝ้าแต่คิดถึงแน่งน้อยเป็นร้อยหน
หากจะเป็นเพราะกรรมก็จำทน
ถึงหมองหม่นก็มิโกรธหรือโทษใคร
๐  จึงเหลือซอเก็บไว้ใช้ต่างหน้า
หยิบขึ้นมาบรรเลงเสียงเพลงใส
หยาดน้ำตารินรดสลดใจ
เหมือนทรามวัยมาพร่ำเพรียกเรียกหากัน
๐  มนต์เสียงซออ้ออี๋สีเพลงโศก
ครวญวิโยคอกเราจึงเศร้าศัลย์
พระทัยเธอโศกาจึงจาบัลย์
ฝากรำพันตอนดำเนินเดินตามเกวียน
สุ.ป.กวี

ความคิดเห็น
Jirapar Luemsai
Jirapar Luemsai อ่านแล้วคิดถึงแฟนเก่าจังค่ะ
ภัทรา วลี
สุ.ป. กวี
สุ.ป. กวี เขียนต่อกลอนโยมอาจารย์กฤษณา เมื่อตอนกลางวันเลยค้นหาประวัติท่านที่ประพันธ์บทเพลงนี้ อ่านแล้วสงสารพระองค์ท่านจ้าโยมเก๋
ภัทรา วลี
ภัทรา วลี ซาบซึ้ง ค่ะ. เนื้อความในบทกลอน
สุ.ป. กวี
ปลอด จุเฉย
ปลอด จุเฉย เพราะจริงๆเจ้าค่ะพระอาจารย์
จำเรือง ดำเสนา
จำเรือง ดำเสนา ไพเราะจังค่ะพระอาจารย์แต่ก็เศร้าๆ
Vassana U-Petch
Kritsana Vejjasilpa
Kritsana Vejjasilpa พร่ำเพลงพจน์ รสหวาน ขานขับส่ง
ละเมอหลง วิลาสร้อง ซร้องเสถียร
เพลินพระพายพัดผ่าน หวานจำเนียร
จะนำเทียนธูปรอง ละอองกลอน...
อำพัน น้อยเอี่ยม
อำพัน น้อยเอี่ยม ซาบซึ้งมากเลยเจ้าค่ะอาจารย์
Kunmama Nenchoo
รุจิเรข อภิรมย์
รุจิเรข อภิรมย์ ...นมัสการพระคุณเจ้าที่เคารพ
เป็นบทสัลลาปังคพิไสยที่สุดแสนเศร้าซึ้งยิ่งนัก ควรแก่การบันทึกเก็บไว้ขอรับ ผมจะขอนำไปเก็บไว้ในสวนฝันวรรณศิลป์ยะลาด้วย รวมกับชิ้นงานของอาจารย์กฤษณา เวชศิลป์
Yaowares Auamklad
Yaowares Auamklad พระอาจารย์นี่เก่ง....เห็นอะรัยมา..ก็เป็นกลอนได้หมด...สาธุคะ
หยี ย่ามแดง แว่วเสียงซออี๋อ้อพ้อคนรัก คนอกหักรักลาพาหันเหียน ภาพอดีตรุมเร้าเฝ้าวนเวียน จำต้องเพียรหาที่พึ่งซึ่งพระธรรม......หยี ย่ามแดง