..ราตรีที่พี่ครวญ..
..ครวญ..
๐ ราตรี ...
เบื้องบนมีดวงดาวพราวเวหน
ไร้เดือนแรมมาแต้มแต่งปลอมแปลงปน
ท้องฟ้ายลยวงระยับประดับเงิน
แต่ตัวพี่นั้นไม่มีราตรีน้อง
ให้ขัดข้องพลันหมองหม่นจนเก้อเขิน
ท้องฟ้าช่วงมีดวงดาวพร่างพราวเพลิน
ตัวพี่เดินอยู่โดดเดียวเปล่าเปลี่ยวใจ
๐ ราตรี ...
ดอกไม้งามนามนี้อยู่ที่ไหน
แสร้งส่งกลิ่นกระจายเกลื่อนเลื่อนลอยไกล
ชวนหลงใหลจนไต่เต้าเข้าดอมดม
อันเนื้อน้องนิ่มละมุนกรุ่นกลิ่นหอม
ยิ่งพะยอมมาเย้ายวนชวนสู่สม
ยามเยื้องกรายเพียงย้ายย่างพร่างเพลินชม
สัมผัสพรมลมแผ่วเพ้อละเมอครวญ
๐ ราตรี ...
ดึกเพียงนี้พี่ยังพร่ำคำนึงหวน
รอยรสรักร่วมรัดรึงดุจตรึงตรวน
ทุกอย่างล้วนให้ลืมยากยามจากกัน
ทั้งที่นั่นและที่นี่ล้วนชี้ชัด
สารพัดผุดพิมพ์ภาพฉาบความฝัน
อู่อดีตเด่นดูดดึงถึงปัจจุบัน
ไม่มีวันสลายเลือนเหมือนจงใจ
๐ ราตรี ...
เธอทำให้พี่รักแล้วผลักไส
จึงขอถามถึงความจริง ... เพื่อสิ่งใด ?
หรือแสร้งให้ใจพี่ตรมโศกซมซาน
ต่อแต่นี้ไม่มีน้องตระกองกอด
สิ้นเสียงออดอ้อนออเซาะฉอเลาะขาน
ไม่มีกลิ่นกายละมุนกรายกรุ่นฆาน
มีเพียงม่านมโนภาพฉาบฉายลวง
๐ ราตรี ...
ค่ำคืนนี้พี่ทุกข์ใจอย่างใหญ่หลวง
เคยพลาดหวังหลายครั้งอยู่ไร้คู่ควง
ไม่เคยหวงทวงสิทธิ์เพรียกเรียกรักคืน
แต่ครั้งนี้สุดที่ใจจะจองหอง
ยามขาดน้องต้องทุกข์หนักเกินจักฝืน
ล่วงราตรีพี่ระกำสุดกล้ำกลืน
ความขมขื่นในครั้งนี้... พี่อยากตาย
จากพี่ผู้เดียวดาย
รุจิเรข อภิรมย์
รุจิเรข อภิรมย์
อาศรมศานติสุข “สวนฝันวรรณศิลป์”
อ.เมืองยะลา จ.ยะลา
ได้สดับรับฟังความตามที่กล่าว
คิดถึงคราวเคียงคู่ขวัญพลันใจหาย
แต่เราพรากพลัดจากกันนั้นเพียงกาย
ใจมิคลายสลายหรอกอย่าชอกช้ำ
ด้วยรักและผูกพัน
ราตรี สำราญ